สำหรับบ้านเรานั้นก็เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มตัวแล้วล่ะค่ะ และถ้าจะมาให้เราแต่งตัวในแฟชั่นสไตล์ฤดูหนาวก็คงจะไม่เหมาะ และไม่เข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนเป็นแน่ เพราะเสื้อผ้าที่เหมาะกับช่วงหน้าร้อนก็จะเป็นเสื้อผ้าบางๆ หรือเสื้อผ้าที่มีความหนาไม่มาก เน้นการระบายอากาศได้ดี อย่าง ผ้าคัทตอน หรือ ผ้าฝ้ายเลยล่ะค่ะ ซึ่งวันนี้พี่อะเครุก็จะมาแนะนำไอเทมที่ไม่เหมาะกับใส่ในช่วงอากาศร้อนอย่างแรง เพราะนอกจากจะไม่ใช่เทรนด์แฟชั่นประจำฤดูกาลแล้ว ยังไม่เข้ากับสภาพอากาศอีก จะมีไอเทมไหนบ้าง มาดูกันค่า!
1. บ๊ายบายเสื้อคลุม เสื้อสูท หรือเสื้อแจ็คเก็ตหนาๆ
พอกันเลยค่ะสาวๆ ใครที่คิดอยากจะหยิบเสื้อคลุมตัวหนา เสื้อสูทแบบความหนาระดับสิบ หรือเสื้อบอมเบอร์แจ็คเก็ตชนิดใส่ไปเที่ยวเมืองหนาว เซย์กู๊ดบายไปได้เลยค่ะ เพราะมันไม่เหมาะกับอากาศเมืองไทยมากๆ เพราะเสื้อประเภทนี้จะมีเนื้อผ้าหนา (มาก) และไม่ค่อยถ่ายเท หรือระบายอากาศซะเท่าไหร่ ถ้าใครอยากดูเท่ หรืออยากดูเก๋ แนะนำว่าเลือกเป็นเสื้อคลุมบางๆ จะดีกว่าน้า
เสื้อเบลเซอร์สีดำตัวหนาแม้ว่าจะดูเท่ แต่ไม่เหมาะกับใส่กลางแดดเอาซะเลย
ลุคหวานๆ อย่างโทนนสีม่วงอ่อนกำลังอิน แต่ควรเลือกเป็นเสื้อคลุมตัวบางจะดีกว่าค่า
ไม่เอา ไม่ใส่น้า ช่วงหน้าร้อน กับเสื้อเบลเซอร์ตัวหนาๆ แบบ So Hot
ถ้าอยากใส่เบลเซอร์ต้องเลือกผ้านิดนึง ไม่ควรหนาเกินไป
แฟชั่นเสื้อโค้ทตัวยาวเหมาะกับฤดูหนาวมากกว่าค่า
เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์มันก็ดูเท่อยู่ แต่ไม่ควรเอาหนา หรือติดขนเฟอร์
เก็บเสื้อแจ็คเก็ตหนาๆ สีชมพูไว้ก่อน แล้วเลือกเป็นเสื้อตัวบางดีกว่า
หน้าร้อนนี้ต้องเซย์กู๊ดบายแจ็คเก็ตหนังก่อนน้า เดี๋ยวร้อนเกินไป ไม่รู้ด้วย
ลุคเท่ๆ ที่เหมากับเมืองหนาว มากกว่าเมืองร้อน
เปลี่ยนจากเสื้อแจ็คเก็ตหนัง เป็นเสื้อแจ็คเก็ตตัวบางจะเวิร์คกว่าแบบคูณสิบ
2. ใส่เสื้อสเวตเตอร์ ผิดฤดูกาล
ขึ้นชื่อว่าเสื้อสเวตเตอร์นั้นก็ขอให้เป็นแฟชั่นของฤดูหนาว หรือใส่ไปเที่ยวเมืองหนาวเป็นพอค่ะ เพราะว่าตัวเสื้อสเวเตอร์ส่วนใหญ่ทำจากไหมพรมที่จะเก็บความอบอุ่น มากกว่าการถ่ายเทความร้อนออกมา ดังนั้นถ้าสาวๆ คนไหนเลือกใส่ในฤดูนี้ขอบอกเลยว่าไม่เข้าอย่างแร๊งงง แนะนำว่าให้เป็นเสื้อแขนยาวแบบคอกลมที่ไม่หนา หรือไม่บางมาใส่จะเหมาะกับช่วงหน้าร้อนมากกว่าเยอะเลย
สเวตเตอร์จะเป็นเนื้อผ้าหนา ซึ่งไม่เหมาะกับอากาศเมืองไทย
ถ้าอยากเพิ่มสีสัน แนะนำเป็นเสื้อแขนยาวบางๆ ดีกว่า
แฟชั่นสวยๆ แต่ก็ต้องเลือกให้ถูกฤดูกาลด้วยน้า
เปลี่ยนจากเสื้อสเวตเตอร์ เป็นเสื้อแขนยาวบางๆ จะเวิร์คกว่าค่า
ลุคหวานๆ น่ารัก ยิ่งเหมาะกับอากาศเมืองไทยถ้าเลือกเป็นเสื้อคลุมชีฟอง
โทนสีเหลืองเหมาะกับหน้าร้อน แต่ไม่เอาสเวตเตอร์น้า
เลือกโทนสีสดใส ดีไซน์ได้ แต่เนื้อผ้าต้องบางๆ
เสื้อฮู้ดก็เช่นเดียวกัน ไม่เหมาะกับใส่ในช่วงหน้าร้อนเลยค่า
3. No เด็ดขาด กับเสื้อคอเต่า
แม้ว่าเสื้อคอเต่าจะเป็นไอเทมสุดเก๋ที่ทำให้ลุคของเรากลายเป็นแฟชั่นนิสต้า เหมือนนางแบบบนรันเวย์ มีความเก๋แบบนักธุรกิจระดับพันล้าน แต่มันไม่เข้ากับช่วงหน้าร้อนของเมืองไทยเลยล่ะค่ะ เพราะถ้าหากสาวๆ ใส่นอกจากจะเป็นแฟชั่นผิดฤดูกาลแล้ว ยังเป็นไอเทมที่ทำให้เราร้อนอบอ้าวได้แบบคูณสิบ ยิ่งเสื้อคอเต่าที่เข้ารูปด้วยแล้ว ยิ่งไม่เหมาะ เอาเป็นว่าถ้าสาวๆ คนไหนอยากใส่ อดใจไว้ใส่ช่วงหน้าหนาว หรือไปเที่ยวเมืองหนาวจะดีกว่าค่า
แฟชั่นคอเต่าไม่เหมาะกับหน้าร้อน ควรเก็บไว้ในตู้ก่อนน้า
แม้จะทำให้ลุคดูหรู แต่ไม่เหมาะกับเมืองร้อน
ใส่เป็นเสื้อตัวใน จะเหมาะกับช่วงหน้าหนาวมากกว่าค่า
เลือกเป็นการแมทช์เสื้อยืด คู่กับเดรสกระโปรงสายเดี่ยวจะเข้ากว่า
เก็บไว้แมทช์ในหน้าหนาวจะเริ่ดมาก
ได้ลุคสวยหวานๆ แต่ไม่เหมาะกับช่วงซัมเมอร์
ถึงจะเป็นเสื้อครอป แต่ก็ยังเป็นคอเต่า ไม่เหมาะเลยเชียว
แม้ว่าเสื้อคอเต่าสีดำจะให้ลุคหรู แต่ก็ไม่เหมาะกับการใส่ท่ามกลางแดดร้อน
4. รองเท้าบูท
สไตล์รองเท้าบูทเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่เหมาะกับช่วงอากาศเย็น มากกว่าอากาศร้อนค่ะ เพราะรองเท้าบูทเป็นรองเท้าแบบหุ้มข้อ และไม่เปลือยหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดความอับชื้น และมีกลิ่นได้ง่าย เนื่องด้วยจะอบอ้าวได้ง่าย และไม่ค่อยถ่ายเทอากาศ แม้จะมีสาวๆ ค้านว่ารองเท้าบูทเป็นไอเทมที่เหมาะกับงานเทศกาลดนตรี และธีมงานสไตล์โบฮีเมียนที่จะจัดในช่วงหน้าร้อนเอามากๆ ก็แนะนำไว้ว่าถ้าวันนั้นอากาศร้อนมากเกิน ก็ลองเลือกเป็นรองเท้าสานที่เหมาะกับช่วงซัมเมอร์จะดีกว่าค่า แถมสวยชิคไม่แพ้กันอีกด้วย
ยิ่งเป็นรองเท้าบูทแบบยาวแล้ว ยิ่งไม่เหมาะใส่ในหน้าร้อนใหญ่เลย
เก็บไว้ใส่ตอนเที่ยวเมืองหนาวจะเวิร์คกว่านะสาวๆ
แฟชั่นผิดฤดูแบบนี้ ไม่เหมาะกับแมทช์ในหน้าร้อนมากๆ
ถึงแม้รองเท้าบูทจะทำให้ลุคของเราดูเท่ แต่มันจะทำให้เราร้อนได้
เปลี่ยนจากรองเท้าบูท เป็นรองเท้าแบบเปลือยส้นจะเหมาะกว่า
ดูเท่แบบเก๋ๆ แต่ไม่เข้ากับช่วงซัมเมอร์เท่าไหร่
เป็นไงบ้างเอ่ย ไอเทมแฟชั่นที่มีถึงแม้จะสวย แต่ก็ใช่ว่าจะเข้ากับอากาศบ้านเรา ดังนั้นเพื่อที่จะแต่งให้สวย แบบเหมาะสม แนะนำว่าเราต้องดูอากาศ และความหนาบางของเสื้อผ้าด้วยนะคะ